เจาะบ่อบาดาล
เจาะบ่อบาดาล
น้ำคือหัวใจของทุกชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่ที่จะมีน้ำประปาใช้เพียงพอหรือตลอดทั้งปี "บ่อน้ำบาดาล" จึงเป็นคำตอบที่ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้อย่างยั่งยืน
ทำไมต้องเจาะน้ำบาดาล
ใช้น้ำได้ตลอดปี ไม่ต้องกังวลหน้าแล้ง
ประหยัดค่าใช้น้ำระยะยาว
น้ำบาดาลส่วนใหญ่สะอาด ปลอดภัย เหมาะสำหรับการอุปโภคบริโภค (เมื่อติดตั้งระบบกรองอย่างเหมาะสม)
มีน้ำใช้เพียงพอสำหรับครัวเรือน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
บ่อน้ำบาดาลเหมาะกับใคร?
เกษตรกร ที่ต้องการใช้น้ำรดพืชตลอดปี
เจ้าของบ้าน/รีสอร์ท/ฟาร์ม ที่อยู่ห่างไกลจากระบบประปา
โรงงาน/ธุรกิจ ที่ต้องใช้น้ำปริมาณมาก
ชุมชน ที่ต้องการน้ำใช้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
บ่อน้ำบาดาลจึงไม่ใช่แค่การมีน้ำใช้ แต่คือการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชีวิตและการทำงานในอนาคต
การเตรียมงานก่อนเจาะ
การสำรวจด้วยสายตาและประสบการณ์ (Traditional)
ใช้การสังเกตภูมิประเทศ เช่น ที่ลุ่ม ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ
ดูจากพันธุ์ไม้ พืชที่ชอบน้ำ เช่น ไผ่ กล้วย ต้นไทร
อาศัยประสบการณ์ของช่างเจาะรุ่นเก่า
วิธีนี้แม้จะพอใช้ได้ แต่มีความเสี่ยง ไม่แม่นยำ 100%
การสำรวจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Modern Method)
การสำรวจธรณีฟิสิกส์ (Geophysical Survey) เช่น วิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้า (Resistivity Method) ใช้เครื่องปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ดิน เพื่อวัดการนำไฟฟ้าของชั้นดินและหิน → บอกได้ว่ามีชั้นหินกักเก็บน้ำหรือไม่
การใช้เครื่องหาค่าคลื่นเสียง (Seismic Survey) ตรวจการสะท้อนของคลื่นเพื่อตรวจชั้นหิน
การใช้ดาวเทียม/แผนที่ธรณีวิทยา ดูโครงสร้างรอยเลื่อน ร่องน้ำใต้ดิน
เก็บข้อมูลเบื้องต้น
แผนที่พื้นที่
ความสูงต่ำของภูมิประเทศ
พื้นที่ใกล้เคียงมีบ่อบาดาลหรือไม่ และระดับความลึกเท่าไหร่
เลือกจุดสำรวจ
กำหนดตำแหน่งที่คาดว่าจะมีแหล่งน้ำ
ใช้เครื่องมือธรณีฟิสิกส์ตรวจสอบ
วิเคราะห์ข้อมูล
อ่านค่าที่ได้จากการสำรวจ → แสดงเป็นกราฟ/แผนผัง
ตีความว่าตำแหน่งไหนมี “ชั้นหินกักเก็บน้ำ (Aquifer)”
กำหนดตำแหน่งเจาะ
ชี้จุดเจาะจริง พร้อมระบุความลึกโดยประมาณ